Fic TempG We belong together - Fic TempG We belong together นิยาย Fic TempG We belong together : Dek-D.com - Writer

    Fic TempG We belong together

    คนเราจะรักกันได้นานแค่ไหน.... ตลอดชีวิต... หรือ ตลอดไป....

    ผู้เข้าชมรวม

    893

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    893

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    3
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  11 ก.ย. 55 / 17:05 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น



    คนเรา

    จะรักกันได้นานแค่ไหน...

    ตลอดชีวิต?.....

    หรือ

    ตลอดไป?.....




    จะรักตลอดไป

    แม้ว่าใครอีกคนจะจากไป...

    แต่ยังไงก็ขอจะตามไป...

    ตามไปเพื่อที่จะอยู่ด้วยกัน..

    ตราบนิจนิรันดร์

     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      Fic TempG
      Title : We belong together
      Paring : Choi Seunghyun X Kwon Jiyong
      Fandom : Bigbang
      Rate : NC 15
      Genre : Romantic, Drama
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
                 คนเราจะรักกันได้นานแค่ไหน??

                จนตาย???

                 หรือ

                 ตลอดไป???
      .
      .
      .
      .
      .    
                 “เก็บเอาคำแก้ตัวของนายไปบอกผู้หญิงอีกคนเถอะ”    มือบางสะบัดการเกาะกุมของอีกฝ่าย        “ชั้นเบื่อแล้วนะซึงฮยอน เบื่อที่ต้องมาเหนื่อยอย่างนี้แล้ว พอเถอะนะ”

                 “มันไม่ใช่อย่างนั้นนะจียง”     เสียงทุ้มต่ำเอ่ยอย่างอ้อนวอนคนตรงหน้า    “ได้โปรดนะเถอนะจียง ฟังชั้นหน่อยนะ”

                  มือหนาเอื้อมไปดึงมือบางทั้งสองข้างขึ้นมากอบกุม ใบหน้าคมคายเว้าวอนจนอีกคนเกือบจะใจอ่อน หากแต่เมื่อนึกถึงความผิดของอีกคนได้ ความบึ้งตึงก็เข้ามาแทนที่ทันที ใบหน้าที่ติดจะหวานเกินผู้ชายของจียงแสดงความบึ้งตึงออกมาอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนไม่แม้แต่จะมองคนตรงหน้า

                  “ได้โปรดนะจียง มันไม่มีอะไรจริงๆ”    ซึงฮยอนประทับริมฝีปากลงไปกลางมือบางของอีกฝ่าย         “เชื่อชั้นนะ”

                  “ชั้นเชื่อนายมากี่รอบแล้ว ชเวซึงฮยอน!!!”          จียงสะบัดมืออกอย่างไม่ไยดี สีหน้าและแววตาของจียงทำให้ซึงฮยอนรู้สึกกลัว

                   ได้โปรดนะ จียง....อย่าทิ้งชั้นไป

                   “ชั้นเจ็บมาพอแล้วซึงฮยอน”

                    จียงจ้องมองอีกฝ่ายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหันหลังเดินจากไป  ชั้นเข็ดกับนายแล้ว ชเวซึงฮยอน  จียงได้แต่คิดในใจอย่างปวดร้าว น้ำใสๆไหลรินออกมาจากดวงตาโดยปราศจากเสียงสะอื้น

                     ซึงฮยอนได้แต่มองดูอีกฝ่ายเดินจากไปอย่างช้าๆ ร่างบางที่เขาสัญญาว่าจะปกป้องดูแล บัดนี้กลับเป็นตัวเขาเองที่ทำร้ายคนที่เขารักให้ต้องเจ็บปวด ดวงตาคู่สวยทอดมองจียงที่กำลังก้าวขาลงไปในถนนอย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนก

                   “ไม่ จียง จียง!!!!!”

                    เอี๊ยดดดดดดดดดดดด

                   โครมมมมม!!!

                    เสียงแรกที่จียงได้ยินคือเสียงล้อรถบดกับพื้นถนน ก่อนจะรู้สึกได้ถึงแรงผลักกระแทก และเสียงสุดท้ายที่มันเหมือนกระชากหัวใจของเขาไป ณ วินาทีนั้นภาพเหตุการณ์ตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับภาพยนตร์ที่เขาเคยดูก่อนหน้านี้ แสงสว่างจ้าจากไฟหน้าของรถยนต์และเสียงโครงเหล็กที่ปะทะเข้ากับตัวคนมันทำให้เขาแทบคลั่ง แขนบางค่อยๆหยัดกายตนขึ้นอย่างช้าๆ ดวงตายังคงจับจ้องอยู่ที่ภาพตรงหน้า
      .
      .
      .

                ทำไม!!!

               ทำไมซึงฮยอน!!!

                นายช่วยชั้นทำไม!!!
      .
      .
      .

                ขาเรียวสวยก้าวไปหาคนรักที่กำลังนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นถนน แรงปะทะอย่างรุนแรงเมื่อครู่ส่งผลให้ซึงฮยอนกระเด็นห่างจากจุดเดิมถึงสิบเมตร จียงค่อยๆทรุดตัวลงนั่งข้างๆก่อนจะดึงร่างสูงให้นอนบนตักของตน มือสั่นระริกยามยกมันขึ้นลูบใบหน้าคมคายที่เขาหลงใหล นิ้วเรียวยกขึ้นเช็ดเลือดที่ไหลออกมาตามมุมปากอย่างเบามือ ใบหน้าสวยก้มลงไปสัมผัสริมฝีปากยักเบาๆ

                “อ...อย่า...อึก...โกรธ...ช...ชั้น...อ่อก...นะ...”     ซึงฮยอนพยายามอ้อนวอนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะไม่มีโอกาสอีก    “ชั้น...ข...ขอ...โทษ....”

                 จียงส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน เขารู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป คนรอบข้างเริ่มโหวกเหวกโวยวาย จียงใช้มือลูบไล้ใบหน้าของอีกฝ่าย ดวงตาสีนิลของซึงฮยอนยังคงทอประกายแห่งความรักเสมอยามที่ทอดมองเขา

                 “ชั้นรักนายนะ ซึงฮยอน”

                 คำบอกรักของจียงมาพร้อมกับรอยยิ้มครั้งสุดท้ายของซึงฮยอน มือที่วางอยู่ข้างตัวตกลง ศีรษะได้รูปสวยเอนซบจียง ดวงตาที่ครั้งนึงเป็นประกายน่าหลงใหลบัดนี้ถูกแทนที่ด้วยเปลือกตาหนา และคงไม่มีวันที่จะเปิดขึ้นมาอีก 

                 รอยยิ้มจางๆครั้งสุดท้ายยังคงประดับอยู่ที่ใบหน้า

                  รอยยิ้มที่มอบให้แด่...คนที่เขารักที่สุด

                 ซึงฮยอนจากไปแล้ว.....

                   จียงรู้ว่าซึงฮยอนจากไปแล้ว ไปในที่ๆไกลแสนไกลซึ่งตอนนี้เขายังตามไปไม่ได้ หัวใจของเขาเหมือนถูกกระชากออกมาอย่างรุนแรง จียงก้มลงไปจูบคนตรงหน้าเป็นครั้งสุดท้าย กระซิบชิดริมฝีปากที่เขารู้ว่าคนรักคงไม่มีโอกาสได้ยิน

                  “แล้วชั้นจะตามไป...”
      .
      .
      .
      .
      .
                  ไม่มีน้ำตา..
          
                 ไม่มีอาการโศกเศร้าใดๆปรากฏให้เห็น...
        
                  ไม่มีอาการฟูมฟายอย่างที่ใครๆคิดไว้....
          
                   แต่เพื่อนสนิทอย่างเขารู้ดี....
          
                 ว่าจียงตายไปแล้ว....
          
                 ตายไปพร้อมกับซึงฮยอน.....

                  ยงเบได้แต่ยืนมองเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วงแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ วันที่ซึงฮยอนโดนรถชนพอเขาไปถึงที่โรงพยาบาลก็เจอแต่จียงที่ตัวเปื้อนเลือด สีหน้านิ่งสนิท นิ่งจนหน้าใจหาย หลังจากวันนั้นจียงแทบจะไม่พูดคุยกับใคร เขารู้ดีว่าในใจของจียงนั้นเจ็บปวดแค่ไหน แต่เขาเป็นได้แค่คนนอก เรื่องนี้จียงต้องเป็นคนตัดสินใจด้วยตัวเอง
          
                  จียงนั่งคุกเข่าอยู่หน้าแท่นหินสีขาวอ่อน ในมือถือช่อดอกลิลลี่ไว้ ดอกไม้ที่ซึงฮยอนบอกว่าชอบ ใบหน้าสวยระบายรอยยิ้มน้อยๆออกมา แต่ภายในใจนั่น ใครเลยจะรู้...
        
                  ว่ามันเจ็บเจียนตายแค่ไหน...
          
                “ซึงฮยอน นายนอนอยู่ที่นี่คนเดียวหนาวไหม?”      เสียงหวานเอ่ยเบาๆ    “เหงาหรือเปล่า นี่ก็จะครบเดือนแล้วนะที่นายมานอนอยู่ที่นี่ ขอโทษนะที่ชั้นไม่ได้มาหาทุกวันอย่างที่ตั้งใจไว้”
          
                   น้ำตาไหลลงมาหยดลงบนดอกไม้ที่เขาตั้งใจนำมาให้ซึงฮยอน ร่างเล็กใช้มือเช็ดไปที่กลีบดอกไม้เบาๆก่อนจะบรรจงจัดแจงวางไว้หน้าแท่นหินอย่างสวยงาม แม้น้ำตาจะยังคงไหลอยู่แต่จียงก็ไม่ได้มีอาการของความเสียใจให้เห็น รอยยิ้มยังคงแต่งแต้มอยู่บนใบหน้าหวาน แหวนทองคำขาวเป็นประกายหยอกล้อกับแสงอาทิตย์ อีกวงถูกสวมไว้เป็นจี้สร้อยแทน แหวนวงใหญ่กว่าที่นิ้วแกว่งไกวไปมาเบาๆไม่ต่างอะไรกับหัวใจของจียงที่นับวันมันยิ่งเต้นช้าลง
      ราวกับรอวันที่มันจะหยุดเต้น......
      .
      .
        
                  “จียงที่จริงแล้วที่ซึงฮยอนมันไปผับเกือบทุกวัน มันไปทำงานพิเศษ”    ยงเบพูดกับอีกคนที่ยังคงมองไปนอกหน้าต่าง    “มันเก็บตังซื้อไอ้นี่ให้มึง”
          
                  ร่างสันทัดเดินไปหยุดตรงหน้าเพื่อนสนิทก่อนจะยื่นกล่องกำมะหยี่ขนาดพอดีมือให้จียงซึ่งมือที่ขาวซีดกว่าเดิมก็เอื้อมมารับไปอย่างเต็มใจ
          
                   แหวนทองคำขาวสองวงส่องประกายอยู่ภายใน จียงหยิบวงเล็กกว่าขึ้นมาสวมไว้ที่นิ้วนางข้างซ้ายก่อนจะมองไปที่แหวนอีกวง เขารู้ดีว่ามันควรจะเป็นของใคร แต่เขาจะเก็บรักษามันไว้อย่างดี
        
                  “ขอบใจมาก”    รอยยิ้มอ่อนถูกส่งมา    “ซึงฮยอนเค้าจะเกลียดกูไหมวะ  ที่กูดันโง่ไม่เข้าใจอะไรสักเรื่อง”
          
                  “ไม่หรอก มันรักมึง”    ยงเบพุดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น    “ชีวิตมันก็มีแต่มึงคนเดียว แค่นี้ไม่ทำให้มันโกรธมึงหรอก”
          
                    มือหนาลูบหัวอีกฝ่ายอย่างปลอบโยน จียงกำลังโกรธ...โกรธตัวเอง ถ้าวันนั้นเขาถามเหตุผลของซึงฮยอนอีกสักนิด หรือถ้าวันนั้นเขาไม่เดินหนีไปอย่างนั้น ซึงฮยอนก็คงไม่
          
                     ตาย...
          
                    ที่สุดแล้วคนที่ฆ่าซึงฮยอนก็เป็นเขาเองนั่นแหล่ะ
        
                   อ่า... ซึงฮยอนอย่าโกรธชั้นเลยนะ
          
                   เดี๋ยวชั้นก็จะตามนายไปแล้ว
          
                  ขอเวลาให้ชั้นอีกนิด
        
                  อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นแหล่ะ
      .
      .
      .
      .
      .

                   มือขาวซีดลูบไล้แท่นหินอ่อนอย่างรักใคร่ ดวงตาคู่สวยยังคงทอประกายแห่งความรักเสมอยามมองชายคนนี้ จียงทำได้แค่ยิ้ม...ยิ้มเท่านั้นที่เขาจะทำให้ซึงฮยอนได้ ซึงฮยอนไม่ชอบให้เขาร้องไห้ ดังนั้นเขาจะไม่ร้อง จียงปาดน้ำตาตัวเองอย่างลวกๆก่อนจะหันไปพูดกับเพื่อน
          
                  “ยงเบ..ถ้ากูตายไป กูจะได้เจอซึงฮยอนไหมวะ?”
        
                  ดวงตาเรียวของยงเบปิดลงอย่างปวดร้าว เขาเสียเพื่อนรักไปคนนึงแล้ว และอีกคนกำลังจะตามไป     “นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าซึงฮยอนอยากจะเจอนายไหม”        ยงเบฝืนยิ้มส่งไปให้อีกคนที่กำลังมองเขาอยู่
          
                  “งั้นหรอ”         จียงพึมพำ       “วันนี้กลับเหอะนะ”
          
                   คนตัวเล็กกว่าเดินมาฉุดแขนเพื่อนให้เดินจากไป ใบหน้าหวานหันไปมองที่สุสานครั้งสุดท้ายก่อนจะส่งยิ้มกลับไปให้
          
                  ต่อให้ซึงฮยอนไม่อยากเจอเขา...
        
                 เขาก็จะไปหาซึงฮยอนอยู่ดี...
        
                  โลกที่ไม่มีซึงฮยอนเนี่ย...มันทรมานสิ้นดี...
          
                 มองไปทางไหนก็เจอแต่ความทรงจำที่มีร่วมกับซึงฮยอนทั้งนั้น...
       
                ชั้นอยู่คนเดียวไม่ได้หรอกนะ.....
          
                นายใจร้ายจัง...ที่ทิ้งให้ชั้นอยู่คนเดียว...
          
                แต่อีกไม่นานหรอกนะ....
          
               อีกแค่นิดเดียว....
          
              ใกล้แล้วล่ะ.....
       
               ใกล้ได้เวลาที่ชั้นจะไปหานายแล้ว.....
          
                รอชั้นก่อนนะ......
      .
      .
      .
      .
      .

              หลังจากที่กลับจากไปหาซึงฮยอน ยงเบก็เอาแต่มองจียงอยู่เสมอๆจนเขาโดนด่าว่าโรคจิต แต่ก็ช่างเถอะ จะโดนด่าว่ายังไงก็ได้ แต่ขอให้เขาได้มองภาพเพื่อนรักของเขาก่อนที่เขาจะไม่ได้เห็นอีก ถึงแม้ภายนอกจียงจะดูร่าเริงแค่ไหนก็ตาม แต่เขารู้ดีว่าดวงตาคู่นั้นไม่เคยบ่งบอกว่ามีความสุขเลยสักครั้งตั้งแต่ซึงฮยอนจากไป แม้ใบหน้าจะยิ้มแย้ม แต่ดวงตาก็จะนิ่งสนิทอยู่เสมอ ไร้แววตาของคนชีวิต ไม่ต่างอะไรกับ...
          
               คนตาย....
        
                “จียง...”
          
              “หือ?”      เสียงหวานขานรับก่อนจะหันมามองหน้าเขา ยงเบพยายามกลืนก้อนอะไรสักอย่างที่มาจุกอยู่บริเวณลำคอ แสบตาชะมัด...
          
                “นาย...เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของชั้นนะ”
          
                 ริมฝีปากบางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มก่อนจะเอ่ย
          
               “นายก็เหมือนกันนะ รู้ใจชั้นที่สุด นายจะเป็นเพื่อนที่ชั้นรักตลอดไป”          จียงโถมเข้ามากอดเพื่อนไว้อย่างแนบแน่น มันคงเป็นครั้งสุดท้ายที่เราสองคนได้ทำอะไรอย่างนี้ ใบหน้าคมของยงเบเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ดวงตาเรียวแดงก่ำ อา...แสบทั้งตา แสบทั้งจมูกเลย
        
                 แดดแรงดีจังเลย...เล่นเอาน้ำตาไหลเลย
          
                แสบตาจริงๆ....
      .
      .
      .
      .
      .

               เมฆสีดำทะมึนลอยเคลื่อนตัวผ่านท้องฟ้าอย่างเอื่อยๆตามแรงลมที่พัดมา ฝนกำลังจะตก นั่นคือสิ่งที่ควอนจียงรับรู้ เขาไม่เคยชอบเวลาที่ฝนตก ทุกครั้งที่ฝนตกเขาจะมีอ้อมกอดของอีกคนเสมอ เสียงทุ้มต่ำจะคอยปลอบโยนเขา แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม มันไม่มีอ้อมกอดอันอบอุ่น ไม่มีเสียงทุ้มที่เขาคิดถึง
          
               ไม่มี...ไม่มีอีกแล้ว
          
               เหลือแค่เขา...คนเดียว
         
              จียงลุกขึ้นจากเตียงเดินไปปิดผ้าม่าน สายตาเหลือบไปมองวันที่บนปฏิทิน 18 สิงหาคม วันเกิดเขา เป็นวันเกิดที่แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอ
        
                มันแปลกตรงที่...
          
                ปีนี้มีเขาอยู่คนเดียว
           
               สายตามองผ่านไปยังกรอบรูปที่วางอยู่หัวเตียง สองคนในรูปนั่นช่างดูมีความสุขเหลือเกิน ไม่เหมือนเขาตอนนี้...บางทีจียงแอบคิดว่าถ้าวันนั้นคนที่ตายเป็นเขามันก็คงจะดีกว่านี้
        
                 เขาคงไม่ต้องทนทุกทรมานอย่างนี้...
          
                 ไม่ต้องเจ็บปวดทุกครั้งที่เผลอคิดเรื่องเก่าๆ.....
          
                  ปลายมีดสีเงินสะท้อนกับแสงของหลอดนีออนส่งแสงเป็นประกายก่อนที่จะสัมผัสกับข้อมือซีดขาว ออกแรงกดอีกนิด ของเหลวสีแดงสดก็ไหลออกมา หยาดโลหิตไหลรินไปตามข้อมือก่อนจะหยดลงบนพื้นห้อง จียงยกมีดออกก่อนจะจับจ้องหยดเลือดที่เกาะอยู่บนใบมีด

                  มันทำให้เขานึกถึงซึงฮยอน...

                 ภาพที่ซึงฮยอนนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นถนนนั่น.....

                 เลือดสีแดงที่ไหลออกจากร่างของซึงฮยอน....

                ยิ่งคิดจียงก็ยิ่งกดใบมีดลงไปอีกจากหนึ่งแผล...สองแผล...สามแผล...จนข้อมือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยรอยกรีดมากมาย เลือดยังคงไหลรินออกมา พื้นห้องสีอ่อนเริ่มเกิดรอยเลือดเป็นรอยกว้าง

                ตอนนั้นนายเจ็บอย่างนี้หรือเปล่า?....

               นายกลัวเหมือนที่ชั้นกลัวไหม?.....

               ชั้นกลัว...ซึงฮยอน

              ชั้นไม่ได้กลัวความตายหรอกนะ....

               ชั้นแค่กลัว....
         
              ชั้นกลัว...ว่าจะไม่ได้เจอนายอีก....
          
                ใบมีดที่ชุ่มไปด้วยเลือดตกกระทบลงกับพื้น ร่างผอมบางของจียงนอนทอดกายไปบนเตียงกว้าง เตียงที่ครั้งหนึ่งมีใครอีกคนนอนด้วย...จียงปิดเปลือกตาลง สูดดมกลิ่นหอมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ของคนรัก กลิ่นของซึงฮยอนทำให้จิตใจเขาสงบลง ดวงตาสีสวยเหลือบมองไปยังกรอบรูปที่วางอยู่เป็นครั้งสุดท้าย การเสียเลือดมากจนเกินไปมันทำให้เริ่มหมดแรง สติพร่าเลือน แต่เขาไม่กลัว...เพราะอย่างน้อย เขาก็ยังคงอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของซึงฮยอน
          
                 ชั้นพร้อมแล้วนะ...

                 ชั้นพร้อมที่จะไปหานายแล้ว....
          
                  มาสิ...
          
                   มารับชั้น....
        
                   มารับชั้นไปอยู่นายสิ ซึงฮยอน....
        
                 สัมผัสอย่างอ่อนโยนที่ใบหน้าทำให้จียงยิ้มออกมาอย่างเป็นสุข นายมารับชั้นแล้ว ซึงฮยอน จียงหลับตาลงปล่อยให้ความเจ็บปวดค่อยๆเลือนหายไป ความมืดมิดเริ่มเข้ามาแทนที่ แต่สัมผัสอ่อนโยนที่เขารู้สึกนั้นทำให้เขาไม่กลัวกับอะไรทั้งนั้น
          
                 ใกล้แล้วล่ะ จียง

        
                 นั่นเสียงนายหรือเปล่าซึงฮยอน เสียงนายใช่ไหมที่กำลังปลอบโยนชั้นอยู่ จียงได้แต่คิดอย่างดีใจ ร่างกายชาไปทั้งตัว สติเริ่มหายออกไปจากตัวเอง
        
                ชั้นอยู่ตรงนี้นะ จียง
       
               สัมผัสเบาๆที่ริมฝีปากเป็นการยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นซึงฮยอนแน่นอน พยายามที่จะยิ้มให้ แต่มันทำได้ยากเหลือเกิน สิ่งสุดท้ายทำได้แค่...
        
                 “ชั้นรักนาย ซึงฮยอน”
      .
      .
      .
      .
      .

                 อาการชาเริ่มหายไปจากร่างกาย จียงลองขยับตัวเบาๆ ความเจ็บปวดที่ข้อมือทั้งสองข้างหายไปหมดแล้ว ร่างบางมองไปรอบด้านอย่างตื่นตกใจ หมอกควันสีขาวมากมายอยู่รอบตัว
        
                 นายโกรธชั้นจริงๆสินะ....
        
                ใบหน้าหวานสลดลงทันที ดวงตาเริ่มแดงก่ำ น้ำใสๆคลอหน่วยเต็มดวงตา แต่แล้วอ้อมกอดจากทางด้านหลังก็ทำให้เขารู้สึกราวกับได้ขึ้นสวรรค์
        
                 “ซ...ซึงฮยอน...ฮึก...”    จียงสะอื้นไม่เป็นภาษาเมื่อหันกลับไปแล้วพบชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ใบหน้าคมส่งยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน เสียงทุ้มต่ำที่เขาคุ้ยเคยดังขึ้นอย่างแผ่วเบาที่ข้างหู แต่มันกลับดังเหลือเกินในใจของเขา
          
                 “เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป...”
      .
      .
      .
      .
      Fin.............................
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .

                   ภาพที่ยงเบเปิดประตูเข้ามาทำเจอทำให้หัวใจแทบสลาย ควอนจียงนอนหลับตาอยู่บนเตียง ข้อมือทั้งสองข้างถูกกรีดจนเหวอะหวะ ร่างเล็กนอนทอดกายอยู่บนเตียงสีขาวที่เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีชาด วูบหนึ่งยงเบคิดว่าจียงเพียงแค่นอนหลับ หากแต่รอยเลือดที่มากมายขนาดนั้นทำให้ยงเบรู้ดีว่ามันไม่ใช่
        
                 น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างไม่อาย ร่างสันทัดนั่งลงบนขอบเตียง มือหนายกขึ้นลูบใบหน้าของจียงอย่างแผ่วเบา ทำอย่างที่ในเวลาปกติไม่เคยได้ทำ
        
                  ขอเถอะ...แค่สักครั้ง
       
                   ขอทำอย่างที่ใจต้องการ...
        
                  ครั้งสุดท้าย...
       
                   “ใกล้แล้วล่ะ จียง”      ใกล้แล้ว นายจะได้ไปหาคนที่นายรักแล้วนะ ยงเบคิดในใจอย่างร้าวราน
        
                  “ชั้นอยู่ตรงนี้นะ จียง”
        
                   ก็แค่พูดออกไป หวังจะให้นายรับรู้บ้าง...ว่าชั้นเองก็อยู่เคียงข้าง คอยเฝ้ามองนายมาตลอด...ไม่ต่างกับซึงฮยอน  ยงเบก้มลงไปประทับริมฝีปากเบาๆก่อนจะผละออกมา
        
                   อย่างน้อย...ชั้นก็จะถือว่า...
        
                   ได้จูบนายตอนที่นายยังมีชีวิต....
        
                   จียงพยายามที่จะส่งยิ้มมาให้เขา นั่นทำให้หัวใจเขาแทบพองโต ขอแค่จียงรับรู้ก็เพียงพอแล้ว...ก่อนที่หัวใจของเขาจะถูกทำร้ายย่อยยับด้วยประโยคต่อมา
          
                 “ชั้นรักนาย ซึงฮยอน”
        
                 เสียงแผ่วเบานั้นดังก้องอยู่ในหัวของเขาๆ ชั้นไม่ใช่ซึงฮยอนยะจียง ทำไมไม่ยอมรู้ตัวบ้าง ว่าชั้นก็รักนายไม่ต่างกับที่ซึงฮยอนรัก
       
                 ชั้นอาจจะผิดที่คิดดีใจตอนซึงฮยอนตาย แต่แล้วชั้นก็รู้ว่ามันไม่ควรจะเป็นอย่างนั้นเลย สายตานายยังคงมองที่ซึงฮยอนอยู่เสมอ นายไม่เคยใช้สายตาที่มองซึงฮยอน มองชั้นเลยสักครั้ง นายเห็นชั้นเป็นแค่เพื่อนเท่านั้นหรอ
        
                 ชั้นขออวยพรให้พวกนายรักกันไปตลอด...
        
                ซึงฮยอน...
       
                รักจียงแทนชั้นด้วย....
        
                 ยงเบมองใบหน้าหวานของจียงที่ประดับด้วยรอยยิ้มบางๆ หน้าอกนิ่งไม่สนิทไม่สะท้อนถึงการหายใจ ก้มลงไปจุมพิตที่หน้าผากมนเป็นครั้งสุดท้าย มือข้างหนึ่งก้มลงไปหยิบมีดเปื้อนเลือดขึ้นมาพินิจ ก่อนจะตัดสินใจ....
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
                   อีซึงรีเด็กหนุ่มวัย 19 ปีนั่งดูข่าวกับเพื่อนรุ่นเดียวกันด้วยความสยดสยอง ใบหน้าหวานที่มีรอยดำคล้ำที่ใต้ตาบิดเหยเกด้วยความกลัวหลังจากที่ฟังข่าว
        
                  “เย็นวันนี้ได้มีการพบศพของชายสองคน สภาพศพคนหนึ่งนอนบนเตียง ที่ข้อมือมีรอยแผลเหวอะหวะ สันนิษฐานว่าเสียชีวิตจากอาการขาดเลือด ชายอีกคนหนึ่งนอนอยู่เคียงข้าง ที่ลำคอมีร่องรอยของการใช้มีดปาดเข้าที่เส้นเลือดใหญ่ ตรวจสอบรอยนิ้วมือแล้วคาดว่าทั้งสองศพเป็นการฆ่าตัวตาย แต่จะมีแรงจูงใจอะไรนั้นยัง....”
        
                   ฟึบ
          
                 “ปิดทำไมอ่า ซึงรี”           คังแดซองถามอย่างขัดใจเมื่อเห็นว่าเพื่อนของตนดันกดปิดทีวีทั้งที่เขายังดูข่าวไม่เสร็จ
        
                  “น่ากลัวออกแดซอง”    ซึงรีเบ้ปากเตรียมจะร้องไห้           “ทำไมเค้าต้องฆ่าตัวตายด้วยอ่ะ”
        
                  คังแดซองยิ้มจนตาปิดเหมือนทุกที ก่อนจะตอบ
        
                 “บูชาความรักละมั้ง.........”
      .
      .
      .
      .
                   คนเราจะรักกันได้นานแค่ไหน??

                  จนตาย???

                    หรือ

                   ตลอดไป???
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .
      .

      Fin for real...........................................



      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×